Chiang Rai … Green Season

ลมฟากกระโน้น หอบกลิ่นดิน กลิ่นใบไม้ ไอน้ำ อากาศเย็นชื่นใจ มาเสิร์ฟให้ถึงระเบียงห้องพัก … จิบ “ดอยตุงดริป” ร้อน ๆ หอมกรุ่น … นั่งดูปุยเมฆวิ่งเล่นบนท้องฟ้า … น้ำค้างใสยังหลับนิ่งบนใบไม้ … สดชื่นเขียวชอุ่มทั้งต้นน้อยต้นใหญ่ ไม่เว้นวัชพืชสกุลต่ำต้อย … แดดอุ่นยามเช้าทักทายผู้คนในหมู่บ้าน “อาข่าป่ากล้วย” บนยอดเขา … ภาพตรงหน้าคือหนึ่งเหตุผล … ที่ทำให้เราหลงรักการเดินทางระหว่างฤดูฝน

ควันไฟลอยเอื่อยปนหมอกขาว … ก้นครัวแต่ละหลังคงกำลังตระเตรียมสำรับอาหารเช้า เรือนแบบดั้งเดิมผสมกลมกลืนกับบ้านปูนสมัยใหม่ ชาวอาข่าเป็นหนึ่งในหลายชาติพันธุ์ที่สร้างชุมชนบนดอยตุง อดีตซึ่งเคยข้องเกี่ยวกับการปลูกและค้าฝิ่น ชีวิตพลิกจากหม่นเทาเป็นขาวสะอาด หลังเกิด โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (DoiTung.org)… ดอยตุง ลอดจ์ ที่เราเข้าพัก ก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ เพื่อพัฒนาอาชีพให้กับคนในพื้นที่ มีโอกาสเรียนรู้งานด้านการโรงแรม ไม่ต้องจากถิ่นฐานไปหางานไกล ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้า

นอกจากดอยตุง ลอดจ์ เชียงรายมีที่พักให้เลือกมากมาย หลากหลายสไตล์ ทั้งในเมือง – นอกเมืองแบบแนบชิดธรรมชาติ สะดวกสบายใกล้สนามบิน ดอยตุง ไร่ชาฉุยฟง สิงห์ปาร์ค ฯลฯ สามารถจองที่พักออนไลน์ในเชียงรายราคาไม่แพง ผ่าน Traveloka เคล็ดลับในการจองให้ได้ราคาถูกลงคือ จองผ่านแอปพลิเคชัน Traveloka พร้อมราคาโปรโมชั่นของแต่ละโรงแรม ที่อัพเดทมายั่วใจทุกสัปดาห์

ส่วนการเดินทางมาเชียงรายก็แสนสะดวก โดยเฉพาะจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Traveloka ในราคาพิเศษ เดินทางแน่นอนในวัน-เวลาที่จอง ทั้งยังสามารถติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งยินดีให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง

บ่ายถึงเย็นของเมื่อวาน เราใช้เวลาหมดไปกับการเที่ยวชมธรรมชาติ เดินเล่นบนทางเดินเรือนยอดไม้ DoiTung Tree Top Walk กิจกรรมใหม่ของสวนแม่ฟ้าหลวง (คลิกเพื่ออ่านเรื่องราว DoiTung Tree Top Walk) เราร่ำลาดอยตุง โดยตั้งใจจะไปชมไร่ชาฉุยฟง อ.แม่จัน เพราะฤดูหนาวปีก่อน หวังมาสัมผัสลมเย็น สวมเสื้อกันหนาวตัวโปรด นั่งจิบชาร้อน ๆ แต่ไร่ชาเนืองแน่นด้วยผู้คนที่หัวใจตรงกัน

สมใจหวัง … ครั้งนี้เลยทำตัวเสมือนเจ้าของสวน เดินตรวจกิจการ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประปราย หลังได้เข้าไปทักทายพูดคุย ต่างก็มีความคิดคล้ายกัน ชอบเที่ยวหน้าฝน ต้นไม้เขียว อากาศดี คนไม่พลุกพล่าน ใช้เวลาได้เต็มที่ ถ่ายรูปสะดวก … ยิ่งได้มาจิบชาชมวิวตรงโถงระเบียง Choui Fong Tea Cafe … จากลานด้านบนเป็นที่จอดรถและจุดชมวิว มีบันไดไล่ระดับลงมาร้านกาแฟ ร้านชา ร้านของฝากด้านล่าง เป็นคาเฟ่ที่ดีไซน์ได้เก๋และเท่มาก

เก็บความสุขจนเต็มอิ่ม … ออกเดินทางต่อ พิกัดปลายทางที่ “Singha Park – สิงห์ปาร์ค” แวะถ่ายภาพสิงห์ตัวใหญ่สีทองเหลืองอร่าม บนเนินหญ้าเขียว ฟ้าสีคราม พร้อมเมฆก้อนยักษ์ตรงทางเข้า เมื่อก่อนที่นี่ใช้ชื่อว่า “ไร่บุญรอด” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาลประมาณ 8,600 ไร่ หลังปรับปรุงได้เพิ่มพื้นที่กิจกรรมหลายอย่าง พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น Singha Park ด้านหน้าซึ่งเป็นทางเข้า ยังเรียกกันติดปากว่า “หน้าไร่”

Zipline โหนตัวบนสลิง … กิจกรรมวัดใจไฮไลต์ของที่นี่ซึ่งมีสองจุด … Zipline Platfrom หรือซิปไลน์ไร่ชา สถานีอยู่แถว ๆ ร้านอาหารภูภิรมย์ อีกหนึ่งคือ Zipline Tower ที่เราตั้งใจมาเช็คอินทดสอบความกล้า … หลังสวมอุปกรณ์เซฟตี้เรียบร้อย ขึ้นลิฟต์ไปบนยอดหอคอยซึ่งเป็นฐานปล่อยตัว สูงราวตึก 8 ชั้น แต่ฝนเริ่มปรอย เลยต้องหยุดรอเพื่อความปลอดภัย

เมฆฝนก้อนใหญ่ส่งละอองฝนมาทักทายแล้วจากไป เพราะถูกลมหอบไปตกบนเขาฝั่งโน้น … เราเลยขึ้นประจำที่ ตรวจเช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง แล้วออกไปสัมผัสความตื่นเต้นท้าทาย ท่ามกลางโลเกชั่นอันงดงาม เส้นทางซิปไลน์ตรงจุดนี้ ปล่อยรวดเดียวจากสถานต้นทางถึงปลายทาง ไม่มีแวะพักระหว่างทาง

เค้าอนุญาตให้นำกล้องถ่ายรูป ไปบันทึกภาพความประทับใจได้ หลายคนจึงมีโอกาสเซลฟี่ตัวเอง ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ความห่างระหว่างสลิง – มือ – ศรีษะ อยู่ในระยะปลอดภัย อย่าลืมเตรียมแบตเตอรี่กับเมมโมรี่การ์ดไว้ให้พร้อม เดี๋ยวจะพลาดช็อตสำคัญ

Zipline Tower เปิดให้บริการเป็นรอบ ทุก ๆ หนึ่งชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. คิดค่ากิจกรรม 300 บาท/คน

ด้วยเนื้อที่กว้างใหญ่หลายพันไร่ การ “นั่งรถฟาร์มทัวร์” จึงดูเหมาะกับพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวให้ฟังระหว่างเดินทาง พืชหลักของสิงห์ปาร์คคือต้นชา มีชาสายพันธุ์ยอดเยี่ยมคัดสรรมาปลูกไว้ รวมถึงผลไม้ซึ่งออกตามฤดูกาลอย่าง พุทธาซื่อหมี่ สตอว์เบอรี่ เมล่อน ฯลฯ มีร้านของฝากให้ชอปกลับบ้านอยู่บริเวณหน้าไร่

รถฟาร์มทัวร์จะหยุดแวะในจุดถ่ายรูปสวย ๆ อย่างวิวรถม้าบนเนินหญ้า มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าและปุยเมฆ … แถมยังใจดีให้ยืมชุดและอุปกรณ์เก็บชา เป็นพร็อพไว้โพสท่าสวย สมมุติตัวเป็นหนุ่มสาวชาวไร่ แต่ละช่วงเดือนยังจัดสวนดอกไม้สีสันสดใส ตั้งแต่หน้าไร่จนถึงบริเวณพื้นที่ด้านใน

แวะทักทายวัววาตูซี่หุ่นล่ำบึ๊ก ม้าลายตัวอวบ ให้อาหารยีราฟและครอบครัวนกแก้วซันคอนัวร์ฝูงใหญ่ แบบใกล้ชิด บริเวณ จุดชมชีวิตสัตว์ หนึ่งในป้ายหยุดรถในเส้นทางฟาร์มทัวร์

รถฟาร์มทัวร์ เปิดบริการทุกวัน 09.00 – 17.00 น. ออกทุก ๆ 30 นาที เด็กสูงไม่เกิน 110 เซนติเมตร ผู้ปกครองไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าตั๋ว นอกเหนือจากนั้นคิดคนละ 50 บาท … รายได้นำไปร่วมทำบุญและเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนในจังหวัดเชียงราย … ได้นั่งชมวิวสวย ๆ บรรยากาศยอดเยี่ยม แล้วยังมีส่วนร่วมทำบุญ อย่างนี้ต้องเรียกว่าสุขคูณสอง

ปั่นจักรยาน … เป็นหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักปั่นอาชีพและนักท่องเที่ยว มีเส้นทางจักรยานที่สวยงาม … พื้นราบสลับขึ้นเนินเตี้ย ๆ ตามแลนด์สเคปของพื้นที่ เป็นเลนจักรยานที่แยกขาดจากถนนที่รถใหญ่ใช้สัญจร … ปลอดภัยไร้กังวล

สามารถเช่าจักรยานได้บริเวณหน้าไร่และตึกแดง ตรงข้าม Zipline Tower คิดค่าบริการ 150 บาท/ชั่วโมง จักรยานเด็ก 50 บาท/ชั่วโมง … ท่านใดนำจักรยานส่วนตัวเข้าไปปั่น ต้องลงทะเบียนกับทางไร่ก่อน โดยแบ่งเวลาเปิด/ปิด ต่างกันในแต่ละช่วงเดือนคือ

เดือนมีนาคม – ตุลาคม เปิด 09.00 – 19.00 น.
เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เปิด 08.00 – 18.00 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.09 1890 7394 หรือเฟชบุ๊ก Singha Park Chiang Rai

ก่อนกลับแวะชิมเมนูอร่อยที่ Barn House Pizzeria อาหารอิตาเลี่ยนสไตล์โฮมเมด เน้นวัตถุดิบจำพวกพืชผักสดใหม่ ผลผลิตภายในไร่ … ร้านอยู่ข้าง ๆ Zipline Tower เปิดทุกวัน 11.00 – 21.00 น.

เบอร์หนึ่งต้องยกให้พิซซ่าบางกรอบหลากหลายหน้าตา สูตรเฉพาะของบาร์นเฮ้าส์ เสิร์ฟร้อนหอมกรุ่นจากเตา … รสชาติเป็นปลื้ม … ลืมไม่ลง