สโลว์ไลฟ์บนซาเล้งทัวร์เกาะสุกร

เกาะสุกร_000ตัวเลขบนหน้าปัทม์บอกเวลา 05.45 นาฬิกา วิถีชีวิตบนท่าเรือเสียมไหม จุดเช็คอินส่งยิ้มให้พระอาทิตย์วันใหม่ เคลื่อนไหวตั้งแต่หัวรุ่ง ดาวระยิบค่อย ๆ เลือนหายจากท้องฟ้า โมงยามเคลื่อนเข้าสู่เวลาเช้า ทิวเขาด้านหน้าต้องแสงในต่างองศา ซ้อนกันเป็นเฉดชั้น ไม่เสียดายที่ตัดใจลุกจากเตียง เพื่อมาดูความสวยงามยามเช้าเช่นนี้
ท่าเรือเสียมไหมตอนรุ่งสาง
ท่าเรือเสียมไหมตอนรุ่งสาง

“เค้าเรียกว่า ทวดโต๊ะเกาะหมู ครับพี่”

“เกาะ” อิทธิพล กุศลรักษ์ … บอกเราเมื่อถูกถามถึงศาลที่มีลักษณะคล้ายคติความเชื่อแบบไทย ตรงเชิงสะพานท่าเรือ เราต่างสงสัยเพราะคนบนเกาะ 99.99% เป็นมุสลิมนับถือศาสนาอิสลาม ไม่กราบไหว้หรือตั้งรูปเคารพตามหลักศาสนา

เป็นความเชื่อที่มีมานานไม่มีหลักฐานบันทึก ก่อนออกทะเลหรือทำกิจกรรมอันใดมักบอกกล่าว เคยมีคนปฏิเสธความเชื่อ เลยเถิดไปถึงปฏิบัติเข้าข่ายลบหลู่ มักเกิดเหตุไม่ดีกับตัวเอง จนต้องขอขมาลาโทษ เป็นเหตุให้คนบนเกาะเคารพนับถือมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

แสงก่อนเช้า บนท่าเรือเสียมไหม
แสงก่อนเช้า บนท่าเรือเสียมไหม

“โต๊ะ… เปรียบเหมือนผู้ใหญ่ที่คนเคารพนับถือ คนที่นี่เค้าเรียกเกาะสุกรว่าเกาะหมู กันมานานแล้ว ถ้าพี่ไปถามว่ารู้จักเกาะสุกรมั๊ย คนจะนึกอยู่พักแหละ แต่ถ้าบอกว่าเกาะหมู ก็รู้เลย”

เกาะ … ก็เหมือนกับลูกผู้ชายทั่ว ๆ ไป ที่ออกไปเผชิญชีวิตด้วยตัวเอง จนวันหนึ่งมีลูกน้อย จึงกลับมาปักหลักที่บ้านเกิดกับครอบครัว ยึดอาชีพขับซาเล้งหรือมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างมีหลังคา รับส่งคนบนเกาะและนักท่องเที่ยว

ท่าเรือเสียมไหม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นบนเกาะสุกร
ท่าเรือเสียมไหม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นบนเกาะสุกร

“ซาเล้งบนเกาะมีประมาณ 28 คัน มีเสื้อวิน ต้องเข้าคิวเหมือนมอเตอร์ไซค์รับจ้างเลยพี่”

วินซาเล้งจอดประจำการทุกวันบนท่าเรือเสียมไหม บางครั้งเจอสายด่วนจากทางรีสอร์ท เพราะมีลูกค้าเหมา ก็แต่งตัวลำลองเพื่อความคล่องตัว อัตราค่าบริการมีป้ายบอกชัดเจน เสียมไหมเป็นท่าเทียบเรือเมล์ที่แล่นระหว่างเกาะสุกร อ.ปะเหลียน กับท่าเรือตะเสะ อ.หาดสำราญ ซึ่งห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร ระยะทางที่ไม่ไกล มีแนวเขาชะลอลม ทำให้ข้ามไปมาได้ทั้งปี แม้ในช่วงฤดูมรสุม

ย่านการค้าอยู่บริเวณหมู่ 4 บ้านหาดทรายทอง
ย่านการค้าอยู่บริเวณหมู่ 4 บ้านหาดทรายทอง

อิ่มแสงเช้าแล้วเราย้อนกลับไปทางชุมชนหมู่ 4 บ้านหาดทรายทอง ย่านนี้เปรียบเหมือนเมืองหลวงของเกาะหมู มีมัสยิด โรงเรียนที่ให้การศึกษาขึ้นพื้นฐานถึงระดับ ม.3 สถานพยาบาลชุมชน ร้านรวงส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่แถบนี้ … เลยถือโอกาสแวะชิม “หมี่น้ำแกง” เค้าใช้เส้นหมี่แทนเส้นขนมจีน ทั้งหมี่ขาวเพียว ๆ และแบบจับไปผัดเครื่อง รสออกทางหวานเรียก “หมี่แดง” ราดแกงเนื้อ แกงไก่ ได้ตามสั่ง หากจะชิมแบบทูอินวันให้ออเดอร์ว่า “หมี่ปน” แกล้มมะม่วงหิมพานต์ …เนื้อนิ่ม หวานพอประมาณ มะม่วงเบา… เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด กับยอดผักพื้นบ้านอีกหลายอย่าง ร้านข้าง ๆ ขายข้าวหมกไก่ กะละมังใหญ่ ๆ ไม่นานก็หมด

หมี่น้ำแกง ... กินแกล้มผักพื้นบ้าน
หมี่น้ำแกง … กินแกล้มผักพื้นบ้าน

สภากาแฟอยู่ถัดไปไม่ไกล มีข้าวเหนียวสังขยา ข้าวเหนียวหน้ามะพร้าว ปาท่องโก๋ ให้หม่ำคู่คาเฟอีน คนแถวนี้ดูสนิทกับรสหวาน ใครสั่งกาแฟดำแนะนำว่าอย่าให้เค้าใส่น้ำตาล เพราะอาจได้โอเลี้ยงร้อน ๆ หวาน ๆ มาซดแทน ร้านส่วนใหญ่จะขายตั้งแต่เช้ามืด (มาก) เพราะลูกค้าหลักคือชาวบ้านที่ออกไปกรีดยาง กู้ลอบปู ตาข่ายดักปลา ซึ่งออกกันมาเวลานั้น ไม่เกินแปดโมงเช้าก็ปิดการขาย

ข้าวเหนียวหน้ามะพร้าว กับชานมร้อน
ข้าวเหนียวหน้ามะพร้าว กับชานมร้อน

หาดทรายบนเกาะ ไม่ได้ขาวนวลชวนฝันเหมือนหลาย ๆ แห่ง แต่เรื่องละเอียดเนียนนุ่มไม่เป็นรองใคร แนวหาดขาวผ่องมีแห่งเดียว อยู่บริเวณ “หาดทรายทอง” ติดท่าเรือเสียมไหม เป็นที่อยู่อาศัยและจอดเรือของชาวบ้าน วิธีเดียวที่จะเที่ยวทั่วเกาะคือ นั่งซาเล้งแบบเช่าเหมาวัน หนึ่งคันรับไม่เกิน 5 ที่นั่ง ไปแบบสโลว์ไลฟ์ในคอนเซปต์ “ เขา สวน ป่า นา เล”

หาดทรายทอง ... หาดทรายสีขาวแห่งเดียวบนเกาะ
หาดทรายทอง … หาดทรายสีขาวแห่งเดียวบนเกาะ

“เคยมีนักท่องเที่ยวขอนั่งเกิน 5 คน เพราะเค้าไม่อยากเสียเงินเพิ่ม บางครั้งเราก็ยอมนะถ้าตัวไม่ใหญ่ บรรทุกหนักมากรถก็รับไม่ไหว”

เสียงตัดพ้อถึงนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม ที่ไม่เคารพกฎกติกา ขอบรรทุกเกินอัตราแถมข้าวของอีนุงตุงนัง แต่กลุ่มซาเล้งก็อะลุ้มอล่วยให้ในบางครั้ง เพื่อรักษาสัมพันธภาพและความรู้สึกที่ดีกับนักท่องเที่ยว แม้จะทำให้พาหนะทำกินทรุดโทรมก่อนเวลาอันควร หากใครมีโอกาสไปเยือน ควรคิดถึงใจเราใจเขา อย่าเอาสะดวกแต่ฝ่ายเดียวกันเลยนะ

"เกาะ" อิทธิพล กุศลรักษ์ ... โชว์เฟอร์และไกด์ประจำทริป
“เกาะ” อิทธิพล กุศลรักษ์ … โชว์เฟอร์และไกด์ประจำทริป

เส้นทางสัญจรเป็นเนินเขาสลับที่ราบ หากแบกน้ำหนักมาก บางครั้งผู้โดยสารอาจต้องลงเดินหากเจอเนินชัน ก่อนขึ้นจุดชมวิว จะผ่านบ่อน้ำจืด เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่มีตาน้ำจืดผุดขึ้นริมทะเล บางคนเลยถือโอกาสชิมไปอึกใหญ่ ๆ

ลองชิมน้ำจืด ที่ผุดขึ้นจากตาน้ำริมทะเล
ลองชิมน้ำจืด ที่ผุดขึ้นจากตาน้ำริมทะเล

จุดชุมวิวของเกาะหมูอยู่บนเนินสูง มีศาลากันแดดกันฝนไว้ให้ชมวิวสวย ช่วงน้ำลดสามารถมองเห็นแนวสันทรายผสมเปลือกหอย ที่เรียกกันว่า “สันหลังมังกร” ได้อย่างชัดเจน ย่านน้ำนี้มีอยู่ 2 แห่งคือ สันหลังมังกรหยก และ สันหลังมังกรทับทิมสยาม ถ้าอยากไปเห็นแบบถึงเนื้อถึงตัว เค้ามีเรือแบบเช่าเหมาลำไว้บริการ

จุดชมวิวบนเกาะสุกร สร้างไว้อย่างดี
จุดชมวิวบนเกาะสุกร สร้างไว้อย่างดี

สถานีถัดไปซาเล้งมุ่งหน้าพาลัดเลาะไปตามสวนยางพารา ถนนคอนกรีตเล็ก ๆ มียางพาราต้นใหญ่ช่วยบังแดดได้เป็นอย่างดี

“ถ้ามีโอกาสมาช่วงเช้า แสงจะสวยมาก” เกาะบอกกับเรา

ซาเล้งพาลัดเลาะไปตามสวนยาง
ซาเล้งพาลัดเลาะไปตามสวนยาง

คนขับซาเล้งเป็นคนพื้นที่ของแท้ จึงจดจำวิถีธรรมชาติได้อย่างแม่นยำ … จากสวนยางถนนพาลัดเลาะเข้าหมู่บ้าน เชื่อมต่อถนนเลียบชายฝั่ง มีบ้านทำผ้าบาติก กิจการเล็ก ๆ สำหรับขายนักท่องเที่ยว เข้าช่วงโลว์ซีซั่น ก็กลับไปสวมบทชาวสวนชาวนาตามปกติ

ผ้าบาติกฝีมือชาวบ้าน ทำขายนักท่องเที่ยว
ผ้าบาติกฝีมือชาวบ้าน ทำขายนักท่องเที่ยว
วิถีประมงพื้นบ้านบนเกาะสุกร
วิถีประมงพื้นบ้านบนเกาะสุกร

แนวชายฝั่งมีชุมชนประมงและท่าเทียบเรือ จุดรวมพลกุ้ง ปลา สัตว์ทะเลที่นำขึ้นมาส่งขาย ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลย่านนี้ยังจัดว่าดีเยี่ยม บางคราวชาวเรือกลับฝั่งพร้อมสินในน้ำหลายร้อยกิโล บางลำลงอวนอยู่ริมเกาะ ก็ยังได้มาไม่น้อย เลยขอจอดแวะทักทายถ่ายภาพกันพักใหญ่

ปลาสด ๆ จากทะเล
ปลาสด ๆ จากทะเล

อีกเรื่องที่เราแปลกใจคือ เราไม่เห็นเรือจอดทอดสมอหลังขึ้นฝั่งเลยสักลำ นอกจากตรงหาดทรายทองหมู่ 4 คำตอบถูกเฉลยเมื่อซาเล้งพาเข้าซอกเล็กซอยน้อย ผ่านย่านบ้านเก่า ข้ามคลองย่อยหลายสาย จนมาสุดทางที่อ่าวเล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่ในป่าชายเลน เรือหัวโทงหลายลำสงบนิ่งเหมือนถูกสต๊าฟ เป็นชัยภูมิหลบลมคลื่นที่เหมาะเจาะ ป่าชายเลนบนเกาะหมูยังไม่มีผู้รุกราน ที่จอดเรือลักษณะนี้จึงมีอยู่หลายจุด

บนเกาะมีคลองย่อยหลายสายออกสู่ทะเล
บนเกาะมีคลองย่อยหลายสายออกสู่ทะเล
ป่าชายเลน เป็นที่จอดหลบคลื่นลมชั้นดี
ป่าชายเลน เป็นที่จอดหลบคลื่นลมชั้นดี

นอกจากทำสวน ประมงเรือเล็กแล้ว เค้ายังทำนาปลูกข้าวปีละครั้ง แต่เรามาช่วงฤดูร้อนก่อนฝน (พ.ค.59) จึงเห็นเพียงตอซังข้าวกรอบแดด ตั้งใจว่าหากมีโอกาสจะกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งให้ได้

“จะมาช่วงต้นข้าวเขียว ๆ หรือรวงข้าวสุกสีทอง ตอนไหนก็สวย โทรหาผมได้เลย 09 9410 4044 ยินดีให้บริการครับ” เกาะเชื้อเชิญมาเที่ยวอีกรอบ

ควายเล็มหญ้าริมเลแบบชิลล์ชิลล์ ช่วงแล้งจะซูบเป็นปกติ
ควายเล็มหญ้าริมเลแบบชิลล์ชิลล์ ช่วงแล้งจะซูบเป็นปกติ

นากับควายมักอยู่คู่กัน บนเกาะหมูมีอยู่หลายฝูง ช่วงเย็น ๆ จะพากันลงทะเล เก๋ไก๋ออนเดอะบีช … ฝูงอยู่ไกลน้ำเค็ม ก็นอนแช่ตามแหล่งน้ำจืด ซึ่งมีอยู่หลายแห่ง … จริงอย่างคำกล่าวที่ว่า ชื่อเกาะหมูแต่ไม่มีหมู มีแต่ควาย วัว แล้วก็แพะ … ชื่อเกาะมีที่มาหลายตำนาน ผสานคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ ซึ่งมีทิศทางต่างกัน แต่คนพื้นที่เรียกกันเป็นปกติว่า “เกาะหมู” ผู้มาเยือนสามารถเรียกได้เช่นเดียวกัน หลายบ้านเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้เข้าพัก สัมผัสวิถีชุมชน เท่าที่ได้พบได้คุย เราว่าคนที่นี่เป็นมิตร มีน้ำใจ เลิฟเลยหละ

แตงโม ผลไม้ขึ้นชื่อของเกาะสุกร ( ภาพ : พายุทราย พรายทะเล )
แตงโม ผลไม้ขึ้นชื่อของเกาะสุกร ( ภาพ : พายุทราย พรายทะเล )

เกาะหมูยังมีชื่อเรื่อง “แตงโม” เรามีโอกาสเห็นแตงโมผลสุดท้ายของฤดู ที่สุกรคาบาน่าเพราะเค้าปลูกไว้ ส่วนผลก่อนสุดท้ายถูกเสิร์ฟมาให้เราชิม หวานฉ่ำสมคำร่ำลือ แต่ที่ติดใจกลับเป็นมันกุ้งหวาน ของฝากจากครัวเรือน กระปุกละ 20 บาท เป็นมันกุ้งที่ได้จากการเคี่ยวหัวกุ้ง ผสมวัตถุดิบอีกหลายอย่าง รสชาติคล้ายกะปิหวาน จับคู่กับมะม่วงเปรี้ยวเท่านั้นถึงจะเข้ากัน

มันกุ้งหวาน เหมาะมากกับมะม่วงเปรี้ยว
มันกุ้งหวาน เหมาะมากกับมะม่วงเปรี้ยว

เราพักที่ “ญาตา รีสอร์ท เกาะสุกร” เลยถือโอกาสไปนั่งส่งพระอาทิตย์กลับบ้านที่หน้าหาด ที่นี่เค้ามีห้องพักหลายแบบ พร้อมระเบียงนั่งรับลม นอนฟังเสียงคลื่น ถ้าไม่อยากลงทะเล ก็มีสระให้ลงไปว่ายป๋อมแป๋ม … หน้าหาดหันไปทางตะวันตก เห็นเกาะเหลาเหลียงพี่ เหลาเหลียงน้อง ส่งยิ้มอยู่ไกล ๆ ใครอยากออกทัวร์ดำน้ำ นั่งซาเล้งรอบเกาะ ติดต่อที่รีสอร์ทได้เลย

Traveloka-copyนอกจากเกาะสุกร ตรังยังมีที่ท่องเที่ยวสวย ๆ โรงแรมรีสอร์ตให้เลือกมากมาย โดยสามารถค้นหาและจองที่พักออนไลน์ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ จองผ่าน Traveloka เคล็ดลับในการจองให้ได้ราคาถูกลงคือ จองผ่านแอปพลิเคชั่น Traveloka พร้อมราคาโปรโมชั่นโดนใจเว่อร์ ๆ ที่อัพเดทมาให้เลือกทุกสัปดาห์

การเดินทางก็แสนสะดวก ด้วยการจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Traveloka ในราคาพิเศษ เดินทางแน่นอนในวัน-เวลาที่จอง ทั้งยังสามารถติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งยินดีให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง

จองสบาย … ไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถจองออนไลน์ได้ จ่ายสะดวก … ด้วยวิธีโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม, เคาน์เตอร์ธนาคาร, อินเทอร์เน็ตแบ๊งก์กิ้ง, 7- Eleven และเคาน์เตอร์เพย์เมนต์หลายแห่ง

หนึ่งในห้องพักจำนวนหลายห้องของ ญาตา รีสอร์ท เกาะสุกร
หนึ่งในห้องพักจำนวนหลายห้องของ ญาตา รีสอร์ท เกาะสุกร
วิวหน้าหาด ญาตา รีสอร์ท มองเห็นเกาะเหลาเหลียงอยู่ปลายขอบฟ้า
วิวหน้าหาดญาตา รีสอร์ท มองเห็นเกาะเหลาเหลียงอยู่ปลายขอบฟ้า

วันนี้เมฆคงหิว เลยกลืนพระอาทิตย์ลงท้องไปก่อนเวลา เหลือแค่แสงรำไรอยู่ปลายฟ้า … แต่ได้เมนู ปู ปลา ของทะเลสดใหม่ กับมะม่วงเบายำกะทิ อาหารประจำถิ่นรสชาติคล้ายหลนทางภาคกลาง แต่เข้มข้นจัดจ้านน้อยกว่า มาช่วยปลอบใจในมื้อค่ำ

… อิ่มพุง หลับพริ้ม ไม่ได้ยินเสียงฝน เสียงคลื่น เลยสักนิดเดียว …

มะม่วงเบายำกะทิ ( ภาพ : สุนันทา หามนตรี )
มะม่วงเบายำกะทิ ( ภาพ : สุนันทา หามนตรี )

การเดินทาง
เส้นทางที่สะดวกที่สุดคือ ลงเรือที่ท่าเรือตะเสะ อ.หาดสำราญ ใกล้ท่าเรือมีที่รับฝากรถหลายแห่ง พร้อมบริการรับส่ง หรือนั่งรถตู้โดยสารสาย ตรัง – ย่านตาขาว ลงที่ตลาดแล้วต่อรถสองแถวสายย่านตาขาว – ตะเสะ

ค่าเรือคนละ 30 บาท จอดรอผู้โดยสาร 5-8 คน หัวเรือถึงจะหันออกจากท่า ถ้าเหมาลำคิดราคา 240 บาท ถึงท่าเรือเสียมไหม ส่วนใหญ่รีสอร์ทจะติดต่อรถไว้ให้ หรือใช้บริการซาเล้งโดยตรงที่ท่าเรือ มีราคามาตรฐานแจ้งไว้ชัดเจน

นั่งซาเล้งทัวร์เกาะ
คิดแบบเหมาวันคันละ 400 บาท ผู้โดยสารไม่เกิน 5 คน (ข้อมูลราคาค่าเรือ ค่ารถ : พฤษภาคม 2559)

ที่พัก
มีรีสอร์ทหลายแห่ง หรือสนใจนอนโฮมสเตย์ สัมผัสวิถีชาวบ้าน
ติดต่อได้ที่ อบต.เกาะสุกร โทร.0 7520 7700

ขอขอบคุณ
กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง

เรือโดยสารระหว่างเกาะสุกรกับท่าเรือตะเสะ
เรือโดยสารระหว่างเกาะสุกรกับท่าเรือตะเสะ