“ใบไม้เปลี่ยนเมือง” เปลี่ยนวิกฤติเป็นความห่วงใย

ใบไม้เปลี่ยนเมือง
ใบไม้เปลี่ยนเมือง, บ้านสะนำ, จานกาบหมาก, บ้านไร่, อุทัยธานี, บ้านสะนำอุทัยธานี

ในยามวิกฤติ COVID-๑๙ หรือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เช่นนี้ จริงอยู่ที่หลายความคิดเห็นกล่าวว่าเป็นการทำให้โลกได้ปรับสมดุล การงดเดินทางไกลหรือเดินทางต่างประเทศ การหยุดของกิจการต่างๆ หรือการปิดเมือง ผู้คนเคลื่อนย้ายน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เป็นผลดีที่ทำให้ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง รูโหว่ของชั้นโอโซนเล็กลง เหมือนโลกได้พักผ่อนหลังทำงานหนักมาอย่างยาวนาน

อย่างไรก็ตาม ด้วยพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ต้องเปลี่ยนไปตามความจำยอม การป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากไวรัส ของทุกอย่างที่ใช้แล้วจำเป็นต้องทิ้งในทันทีทันใด เช่น หน้ากากอนามัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ขยะพลาสติก” จากการสั่งอาหาร Delivery ที่ดูจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและสะดวก ก็ทำให้เราต้องเบียดเบียนธรรมชาติอย่างเลี่ยงไม่ได้

ใบไม้เปลี่ยนเมือง, บ้านสะนำ, จานกาบหมาก, บ้านไร่, อุทัยธานี, บ้านสะนำอุทัยธานี

แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นทั้งความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและห่วงใยผู้ต้องเผชิญกับโควิด-๑๙ ตัวร้าย อย่าง “กลุ่มใบไม้เปลี่ยนเมือง” ที่แม้จะห่างกายแต่ก็ไม่ห่างใจ รวมอาสาสมัครใจดีในชุมชน (จำนวนเล็กน้อย เพราะก็ต้องใส่ใจสุขภาพของคนในชุมชนด้วย) เร่งผลิตภาชนะจานกาบหมากจำนวนกว่า ๕,๐๐๐ ใบ ให้กับทีมแพทย์โรงพยาบาลศิริราช ทั้งยังขยายต่อไปยัง โรงพยาบาลหางดง จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลไชโย จ.อ่างทอง และโรงพยาบาลเกาะยาว จ.พังงา เพื่อให้ทางโรงพยาบาลได้ใช้สำหรับใส่อาหารให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-๑๙ ที่จำเป็นต้องใช้แล้วทิ้ง แต่ไม่เป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อม

ใบไม้เปลี่ยนเมืองคือใคร?

กลุ่มคนเล็กๆ ในชุมชนบ้านสะนำ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ที่มีความตั้งใจอันยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงชุมชน โดยตั้งกลุ่ม “ใบไม้เปลี่ยนเมือง” เปลี่ยนใบไม้ที่ไร้ค่าให้มีมูลค่า ผ่านองค์ความรู้ในรูปแบบ Learning by Doing ของชุมชน ร้อยรัดเชื่อมโยงผู้คนด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม บริหารจัดการรายได้อย่างเป็นธรรม และทำให้คนในชุมชนรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ

ด้วยบ้านสะนำเป็นชุมชนที่มีต้นหมากจำนวนมาก จนได้ชื่อว่า “ชุมชนหมากล้านต้น” ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ความนิยมในการบริโภคหมากไม่เป็นเช่นเดิม ประกอบกับกระบวนการให้ได้มาซึ่งหมากเป็นอะไรที่ยุ่งยากและซับซ้อน ย่านนี้จึงเหลือคนปีนเก็บหมากจำนวนไม่มากนัก

ปุณพจน์ ศรีเพ็ญจันทร์ ที่ปรึกษาชุมชนบ้านสะนำ ได้หารือกับชาวบ้านเพื่อบอกลาพลาสติก เปลี่ยนกาบหมากที่ร่วงหล่นไร้ค่า ให้กลายเป็นของมีราคาด้วยการเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต “จานกาบหมาก” ต่อยอดไปถึงการนำใบไม้ที่ร่วงหล่นตามฤดู มาทดลองอัดปั๊มด้วยความร้อนสูง จนได้เป็นจานใบไม้ที่มีพื้นผิวเป็นเส้นใยสวยงาม ใครจะไปเชื่อว่าใบไม้ที่กวาดทิ้งทุกวันจะสร้างเม็ดเงินได้ถึงใบละ ๑ บาท ทำให้ชาวบ้านเริ่มมองเห็นต้นทุนและช่องทางสร้างรายได้ที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของการอยู่ร่วมกับธรรมชาติของชุมชน

ใบไม้เปลี่ยนเมือง, บ้านสะนำ, จานกาบหมาก, บ้านไร่, อุทัยธานี, บ้านสะนำอุทัยธานี

แม้ในแต่ละวันจะผลิตจานกาบหมากได้จำนวนไม่มากนัก เนื่องด้วยข้อจำกัดของเครื่องมือ แต่ความตั้งใจของกลุ่มใบไม้เปลี่ยนเมือง ก็เป็นดั่งหยดน้ำฝนประพรมพื้นดินแห้งน้ำ ที่ทำให้เห็นว่าแม้ในยามวิกฤติ ก็ยังมีความรัก ความห่วงใย จากผู้คนในทุกหนทุกแห่ง ที่พยายามจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แม้จะไม่เคยพบปะเห็นหน้ากันมาก่อนเลยก็ตาม

Art of Traveler ขอร่วมเป็นหนึ่งในกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้เป็นทัพหน้าสู้กับโควิด-๑๙ ทุกท่าน รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังอีกหลายภาคส่วน และจานกาบหมากของกลุ่มใบไม้เปลี่ยนเมือง ที่ส่งมอบความห่วงใย บอกเล่าความรัก(ษ์) ของคนในชุมชนบ้านสะนำได้อย่างชัดเจน

กลุ่มใบไม้เปลี่ยนเมือง
บ้านสะนำ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
โทร.๐๙ ๕๘๑๕ ๘๙๒๕
(คุณปุณพจน์ ศรีเพ็ญจันทร์)

FB :ใบไม้เปลี่ยนเมือง LeafChangtheWorld

เรื่อง : อรอุมา ศิลป์วัฒนานุกูล
ภาพ : ธนิสร หลักชัย